รอบน็อคเอาท์ 8 ทีม สุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 วันที่ 2

โปรตุเกส vs โมร็อกโก

แข่งวันที่ 10 ธันวามคม 2565 เวลา 22.00 ที่สนาม อัล ธูมามา สเตเดียม ประเทศกาตาร์ เป็นคู่ที่สร้างสีสันมากที่สุดของรอบ 8 ทีมสุดท้ายเพราะโมร็อกโก ที่หลุดมาถึงรอบนี้คือทีมม้ามืด

โปรตุเกส เป็นที่น่าเสียดายมากสำหรับแฟนบอลโรนัลโด้ ที่หลุดไปเป็นตัวสำรองไปแล้ว เพราะนักเตะรุ่นน้องในทีมแสดงฝีมือได้เหนือกว่า จนโรนันโด้ต้องยอมรับ จี รามอส คนเดียวที่ทำแฮตทริก 3 ประตูในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่เจอกับทีมสวิตเซอร์แลนด์บวกกับความเก๋าแต่ยังฟิตของ เปปี และนักเตะรุ่นน้อง อาร์ แกร์เรโร่ และ อาร์ ลีเยา ร่วมเล่นเกมรุกที่รวดเร็ว จนดูประหลาดตาไปเลย นักเตะช่วยกันตั้งรับและเติมเกมรุก ได้ดีมากในนัดที่เจอกับสวิตเซอร์แลนด์ ต้องติดตามภาคต่อไป
โมร็อกโก มีดีที่ผู้รักษาประตู ยาสซีน บูนู เซฟนับครั้งไม่ถ้วนในรอบ 16 ทีม นัดที่เจอกับสเปน และช็อตที่สำคัญคือ เซฟได้ 3 จุดโทษในเกมเดียวตอน ยิงจุดโทษกับสเปน นอกจากนี้ยังมี ฮาคิม ซีเย็ด และอัชราฟ ฮาคิมี่ บอกได้เลยครับ 2 ผู้เล่นนี้ช่วยทีมทั้งรุก และรับตลอด 90 นาทีของการแข่งขัน คือต้องขอชมนัดที่เจอกับสเปน การเข้าหาบอลได้เร็วมาก วิ่งแซงผู้ของสเปนได้หลายครั้ง

รูปเกมที่คาดว่าน่าจะเป็น โปรตุเกสชนะแน่นอน หากส่งโรนัลโด้ลง เพราะว่ารูปเกมคงเหมือนกับนัดที่เจอกับสเปน โปรตุเกสคงบุกใส่อย่างทุกทิศ ทุกทาง แต่ทางโมร็อกโก คงตั้งรับแล้วรอจังหวะสวนกลับ แล้วพอโมร็อกโกตั้งรับมาก พื้นที่เล่นมีน้อย รูปเกมแบบนี้แหละ ถึงเวลาฮีโร่ตัวจริงโรนันโด้ เพราะนักเตะคนนี้ไม่ต้องการพื้นที่เยอะ ขอแค่โอกาส ฟันธงได้เลยครับ หากส่งโรนัลโด้ลง ให้เชียร์โปรตุเกสไปให้สุด แต่หากนัดนี้ไม่มีโรนัลโด้ แนะนำเชียร์โมร็อกโก ได้เลยครับโปรตุเกสคงตกที่นั่งเดียวกับสเปน

อังกฤษ vs ฝรั่งเศส

แข่งวันที่ 10 ธันวาคม 2565 เวลา 02.00 แข่งที่สนามอัล เบย์ท สเตเดียม เป็นคู่ปรับ เป็นดาร์บี้แมตซ์ของยุโรป ของยาวนานแล้วสำหรับการแข่งขันฟุตบอลชายระหว่าง อังกฤษ พบกับ ฝรั่งเศส รับรองใส่กันมันแน่นอน ฟอร์มความสามารถ มีเท่าไหร่ใส่หมด

อังกฤษ ฟอร์มนัดแบ่งกลุ่ม 32 ทีมมีสดุดไปนัดหนึ่ง คือเสมอสหรัฐอเมริกา 0:0 ที่เหลือยิงขั้นต่ำ 3 เม็ดในฟุตบอลรอบสุดท้าย นักเตะหลายคนฉายแววขึ้นมา อย่างบูกาโย ซากา, ฟิล โฟเดน และจูด เบลลิงแฮม ส่วนที่สำคัญทำให้อังกฤษ ช่วงระยะหลังเพราะว่า นักเตะใหม่และรุ่นเก่าอย่าง แฮร์รี่ เคน, แฮร์รี แมไกว , ราฮีม สเตอร์ลิง และ มาร์คัส แรชฟอร์ด สามารถเล่นเข้าขากับเด็กรุ่นน้องได้ดี ทำให้ทำเกมรุกได้หลากหลาย กว่าฟุตบอลอังกฤษยุดเก่า ที่เน้นแต่ตัวเก๋าทำให้เกมช้า
ฝรั่งเศส ทีมของท่านประธาน คีเลียน เอ็มบัปเป้ ว่าที่ดาวซัลโว ที่ทำไปแล้ว 5 ประตู ในทัวร์นาเมนต์นี้ ฝรั่งเศสแข่งไปแล้ว 4 นัดทำได้ 9 ประตู แต่กลับเป็นของเอ็มบัปเป้ 5 ประตู ตรงนี้แหละคือจุดอ่อนของฝรั่งเศส เพราะหากในรอบ 8 ทีมสุดท้าย อังกฤษเอาเอ็มบัปเป้อยู่ ฝรั่งเศสคงทำเกมลำบาก เพราะดูจากรูปเกมที่ผ่านมาฝรั่งเศสไม่หลากหลาย โอกาสการเข้าทำอยู่ที่เอ็มบัปเป้เกินครึ่ง ตรงนี้คือจุดอ่อน

รูปเกมที่คาดว่าน่าจะเป็น คงใส่กันยับตั้งแต่ต้นเกม คู่นี้คาดด้วยว่าสกอร์สูงน่าจะยิงกันมากกว่า 3 เม็ดด้วยรูปเกมที่ตั้งรับไม่เป็น แต่ให้เน้นเชียร์ไปที่อังกฤษเพราะ 6 คนกองกลางรวมกับกองหน้า สามารถยิงได้ทุกคน พิสูจน์มาแล้ว พลัดกันยิงทุกนัด บอลอังกฤษปีนี้อาจเป็นได้ถึงแชมป์

ฟุตบอลโลกรอบ 8 ทีมสุดท้าย แข่งกัน 2 วันคือ 9-10 ธันวาคม 2565 เน้นเชียร์ไปที่ บราซิล, อาร์เจนติน่า, โปรตุเกส และให้ไว้ใจอังกฤษ พวกซุปเปอร์สตาร์จะพาท่านรับโชคตามเนย์มาร์ เชียร์เมสซี่ ลุ้นโรนัลโด้ และวัดใจซากา พารับตังค์

เขียนโดย เสมา | เผยแพร่ วันที่ 10 ธันวาคม 2565